แนะนำอาชีพ "ลูกชิ้นทอด"

ลูกชิ้นทอด เป็นของกินเล่นที่ทำขายได้ตั้งแต่ข้างทางถึงร้านอาหาร รับประทานได้ทุกเพศทุกวัย และกับยุคนี้ที่กระแสสุขภาพมาแรง ทีม “ช่องทางทำกิน” มีข้อมูล “ลูกชิ้นปลาเก๋าทอด” ไร้สารพิษ มาเล่าสู่...

เพลิน-วาสนา บงกชเกตุสกุล เป็นเจ้าของร้าน “แชมป์ลูกชิ้นปลาเก๋าทอด” ข้างตึกเจ้เล้ง ย่านดอนเมือง ได้สูตรเด็ดเคล็ดลับมาจากรุ่นพ่อ และนำมาทำขายเป็นอาชีพเสริมได้ประมาณ 1 ปี ซึ่งที่มีความคิดในการขายของกินก็เพราะคนเราต้องกินทุกวัน และก็มีสูตรลูกชิ้นปลาเก๋าที่ไม่เหมือนใครอยู่แล้ว

“เราสามารถสร้างจุดขายได้ เพราะลูกชิ้นเราใช้เนื้อปลาเก๋าที่มีคุณภาพ มีความหวานอร่อยของเนื้อปลา ลูกชิ้นจะไม่แข็งจนเกินไป กรอบนอกนุ่มใน ไม่มีวัตถุกันเสีย และไม่ใช้สารบอแรกซ์เจือปน”

เจ้าของสูตรรายนี้บอกอีกว่า ลูกชิ้นปลาต้องอร่อยอย่างธรรมชาติ เน้นคุณภาพ เริ่มจากคัดสรรเลือกเนื้อปลาเก๋าที่มีคุณภาพ, แป้งนอกคุณภาพดี, เครื่องเทศ ซึ่งสูตรลุกชิ้นปลาที่ทำขายอยู่จะแตกต่างจากเจ้าอื่น ๆ โดยทั่วไปที่ทำลูกชิ้นด้วยเนื้อปลากราย แต่นี่ใช้ปลาเก๋า และจะไม่ผสมแป้งมากเพื่อหวังผลกำไรมาก ๆ

สำหรับการทำ “ลูกชิ้นปลาเก๋า” ขาย คุณเพลินบอกว่า อุปกรณ์ที่ใช้ หลัก ๆ ก็มี กระทะ, เตาแก๊ส, ตะแกรงพักน้ำมัน, ไม้พาย, ถาดสแตนเลส, เครื่องตีลูกชิ้น (เครื่องนวด), เครื่องปั้นลูกชิ้น, กระชอน, ตะหลิว, มีด, เขียง, ไม้จิ้ม, กระบวย, หม้อต้มลูกชิ้น, กะละมังขนาดต่าง ๆ และอุปกรณ์เบ็ดเตล็ดอื่น ๆ

ลูกชิ้นปลาเก๋าทอดที่ทำขายจะมี 2 แบบ คือ “แบบนิ่ม” และ “แบบกรอบ”

ขั้นตอนการทำ “ลูกชิ้นปลาเก๋าแบบนิ่ม” นำเนื้อปลาเก๋า 800 กรัม ใส่ลงไปในเครื่องตี ทำการตีให้เนื้อปลาเหนียว ค่อย ๆ เติมแป้ง 100 กรัม เกลือพอประมาณ จากนั้นใส่เครื่องเทศ 100 กรัม ค่อย ๆ ผสมน้ำแข็งลงไปทีละน้อย ตีเนื้อปลาจนเหนียวขึ้นฟูประมาณ 20 นาที ใช้ความแรงเครื่องระดับปานกลาง

เมื่อตีเสร็จเรียบร้อยจึงนำใส่เครื่องปั้นลูกชิ้น โดยใช้น้ำอุ่นรองรับลูกชิ้นที่ออกมาจากเครื่อง แล้วจึงนำไปพักไว้ในน้ำเย็น เก็บไว้ในตู้เย็น รอการนำไปทอดขายได้เลย

ขั้นตอนการทำ “ลูกชิ้นปลาเก๋าแบบกรอบ” นำเนื้อปลาเก๋า 700 กรัม ใส่ลงไปในเครื่องตี ทำการตีจนได้ที่ จากนั้นใส่แป้ง 100 กรัม เครื่องเทศ 100 กรัม และเกลือพอประมาณ ตีจนส่วนผสมทุกอย่างเข้าที่ เนื้อปลาเหนียวขึ้นฟู ใช้แรงเครื่องเบอร์ 4-5 จากนั้นจึงนำใส่เครื่องปั้นลูกชิ้น โดยมีน้ำร้อนรองรับ แล้วนำไปใส่ในน้ำเย็นเหมือนลูกชิ้นปลาเก๋าแบบนิ่ม โดยคุณเพลินบอกว่าการทำลูกชิ้นแบบกรอบไม่จำเป็นต้องใส่น้ำแข็งในขั้นตอนการตีเนื้อปลา เพราะไม่ต้องการให้เนื้อลูกชิ้นปลาเด้ง นี่เป็นสูตรที่ทำขายอยู่

การขายก็ต้องมี “น้ำจิ้ม” ซึ่งวัตถุดิบก็มี น้ำตาลทราย 3 กิโลกรัม ต่อน้ำส้มสายชูหมักธรรมชาติจากสับปะรด 200 ซีซี., เกลือ 50 กรัม, พริกแดงปั่น ½ กิโลกรัม, น้ำเปล่า 3 ลิตร, แป้งข้าวโพดนิดหน่อย

ขั้นตอนการทำน้ำจิ้ม ต้มน้ำใส่น้ำตาลทรายให้ละลาย เมื่อน้ำเดือดใส่เกลือ น้ำส้มสายชู และพริกแดงปั่น โดยใช้ความร้อนปานกลาง จากนั้นค่อย ๆ ใส่แป้งข้าวโพดที่ละลายน้ำเตรียมไว้ในปริมาณพอเหมาะ เคี่ยวอีกนิดจนส่วนผสมต่าง ๆ เข้าที่ ใช้ไฟปานกลาง ก็เป็นอันว่าเสร็จเรียบร้อย ยกลงจากเตาตั้งทิ้งไว้ให้เย็น

เนื้อปลาลูกชิ้นแบบนิ่มจำนวน 1 กิโลกรัม ทำเป็นลูกชิ้นได้ประมาณ 54 ลูก ถ้าเป็นเนื้อปลาลูกชิ้นแบบกรอบ 1 กิโลกรัม จะทำเป็นลูกชิ้นได้ประมาณ 45 ลูก ถ้าเก็บรักษาลูกชิ้นปลาเก๋าไว้ในช่องแช่แข็งตู้เย็นจะสามารถเก็บไว้ได้เป็นเดือน

ส่วนในการทอดขาย จะใช้น้ำมันพืช ทอดด้วยความร้อนปานกลาง การทอดจะต้องมีการเปลี่ยนน้ำมันทุกวันเพื่อความใหม่และสะอาดปลอดภัย ที่สำคัญลูกชิ้นจะไม่มีกลิ่นเหม็นหืน โดยคุณเพลินบอกว่าเมื่อเน้นคุณภาพ ความสะอาดเป็นที่สุด ใส่ใจในผู้บริโภค จริงใจและสัตย์ในอาชีพ ลูกค้าก็จะบอกต่อไปปากต่อปาก ทำให้มีลูกค้าเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ

ราคาขายลูกชิ้นทอดเจ้านี้ จะขาย 7 ลูก 20 บาท เปิดขายทุกวันตั้งแต่เวลา 11.00-19.00 น. และนอกจากขายที่ร้านแล้ว “ลูกชิ้นปลาเก๋าทอด” เจ้านี้ยังสามารถรับออกบูธ ออกร้าน ในงานเลี้ยงสังสรรค์ งานต่าง ๆ และก็มีโครงการจะขยายสาขาเพิ่ม ใครที่สนใจต้องการติดต่อก็ โทร.08-4770-0599, 08-9078-6565

ข้อมูลจาก http://www.dailynews.co.th

แนะนำอาชีพ "คุกกี้โฮมเมด"

"คุกกี้โฮมเมด" อร่อยขายดีอยู่กับบ้าน

การทำ “คุกกี้” ขายแบบโฮมเมด ทำอยู่กับบ้าน ไม่ต้องมีร้าน ยังคงเป็นอีกทางเลือกเชิงอาชีพที่น่าสนใจ ซึ่งวันนี้ทีม “ช่องทางทำกิน” ก็มีข้อมูลการทำ “คุกกี้โฮมเมด” การทำ “คุกกี้บัตเตอร์ ช็อกโกแลตชิพ-คุกกี้ช็อกโกแลต & ไวท์ช็อกโกแลต ชิพ” มาให้แฟน ๆ คอลัมน์ได้ลองพิจารณากัน..

หยิ่น-อนงค์นุช เรืองสกุลพัฒน์ เป็นเจ้าของสูตรคุกกี้ที่ใช้แบรนด์สินค้าว่า “Three sis” ซึ่งปัจจุบันเธอก็ทำงานในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง และทำคุกกี้จำหน่ายเป็นอาชีพเสริมด้วย ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าทำมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยปี 3 ทำเป็นรายได้เสริม ซึ่งก็สามารถสร้างรายได้เป็นอย่างดี

“เรียนด้านคหกรรม และเป็นคนที่สนใจการทำคุกกี้มาตั้งแต่ตอนเรียนแล้ว หลังจากได้สูตรการทำมาจากการเรียนในชั้นเรียน ก็พยายามมาฝึกทำและปรับปรุงสูตรให้เป็นสูตรของตัวเอง ซึ่งทดลองทำอยู่ไม่นานก็ได้สูตรที่ต้องการ จากนั้นก็เริ่มทำออกจำหน่ายตั้งแต่ตอนเรียนปี 3” เจ้าของสูตรคุกกี้รายนี้เล่า พร้อมทั้งบอกอีกว่า ช่วงแรกได้รับออร์เดอร์จากพี่สะใภ้ให้ทำคุกกี้ให้ในช่วงเทศกาลปีใหม่ เพื่อที่จะนำไปแจกลูกค้า หลังจากที่ลูกค้าของพี่สะใภ้ได้กินก็ชอบในรสชาติ หลังจากนั้นก็บอกกันปากต่อปาก จนปัจจุบันก็มีลูกค้ามากขึ้น

สำหรับการทำคุกกี้โฮมเมดขายโดยไม่มีหน้าร้านนั้น ที่สำคัญคือควรที่จะต้องมีการ “เข้าถึงลูกค้า” โดยการเข้าหาลูกค้าด้วยตัวเอง นำสินค้าที่ทำไปเสนอลูกค้าถึงที่ โดยสถานที่ที่น่าจะนำ ไปเสนอก็จะเป็นพวกร้านกาแฟตามย่านต่าง ๆ ใน ส่วนของแพ็กเกจหีบห่อก็มีความสำคัญ ต้องมีการ “ออกแบบแพ็กเกจให้สวยงาม” มีหลากหลายแบบเพื่อเป็นการดึงความสนใจของลูกค้า และไม่ให้ลูกค้ารู้สึกจำเจ และที่สำคัญที่สุดก็เป็นเรื่องของ “คุณภาพสินค้า” จะต้องคงมาตรฐานคุณภาพทั้งวัตถุดิบและรสชาติไว้ให้ได้สม่ำเสมอ

อุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ในการทำคุกกี้โฮมเมด อนงค์นุชบอกว่าหลัก ๆ ก็มี...เตาอบ (ใช้ได้ทั้งเตาอบแบบไฟฟ้าและแก๊ส), เครื่องตีไข่, ตะแกรงร่อนแป้ง ที่เหลือก็จะเป็นอุปกรณ์เครื่องครัวเบ็ดเตล็ด

เตาอบที่ใช้แก๊ส ถ้าเริ่มต้นทำใหม่ ๆ อาจหาซื้อที่เป็นของมือสองมาใช้ก็ได้ ซึ่งมีขายอยู่เป็นจำนวนมาก ที่สำคัญราคาก็ไม่สูง มีหลายขนาดให้เลือก ราคาอยู่ที่ประมาณ 5,000-8,000 บาท...

วัตถุดิบที่ใช้ในการทำคุกกี้บัตเตอร์ช็อกโกแลตชิพ และคุกกี้ช็อกโกแลต & ไวท์ ช็อกโกแลตชิพ หลัก ๆ ประกอบด้วย... แป้งสาลี, น้ำตาล, นมข้นจืด, เนยสด, เนยขาว, ไข่ไก่, ผงโกโก้, ผงฟู, เม็ดมะม่วงหิมพานต์, ช็อกชิพ, ไวท์ช็อกชิพ

ขั้นตอนการทำคุกกี้โฮมเมด เริ่มจากการตีเนยโดยให้นำเนยสด 150 กรัม ผสมกับเนยขาว 150 กรัม ตีรวมกับน้ำตาลทราย 200 กรัม ในเครื่องตีไข่ ตีไปเรื่อย ๆ ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ดูจนเนื้อเนยที่ตีนั้นฟูขาวก็ให้ใส่ไข่ไก่ผสมลงไป 1 ฟอง จากนั้นก็ตีไปอีกประมาณ 10 นาที ก็ใช้ได้ พักไว้

จากนั้นก็เตรียมแป้ง ถ้าคุกกี้บัตเตอร์ฯ นำแป้งสาลี 400 กรัม ผสมผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ (ถ้าทำคุกกี้ช็อกโกแลตฯ ใช้แป้งสาลี 350 กรัม ผงโกโก้ 50 กรัม ผงฟู 1 กรัม) ผสมกันแล้วก็นำไปใส่ตะแกรงร่อนแป้ง ทำการร่อน 1 รอบเพื่อเอาสิ่งแปลกปลอมออก จากนั้นก็นำไปผสมกับเนยที่ตีเตรียมไว้ และผสมนมข้นจืดด้วย 3 ช้อนโต๊ะ

การนำแป้งกับนมข้นจืดลงไปผสมนั้น จะต้องแบ่งผสมเป็น 3 ส่วน และแบ่งนมข้นจืดเป็น 2 ส่วน การใส่ก็จะใส่แป้ง ตามด้วยนม คนให้เข้ากัน ใส่สลับกันจนกว่าจะหมด การใส่แบบนี้จะง่ายต่อการคนแป้งจะไม่แห้ง

เมื่อผสมส่วนผสมต่าง ๆ เรียบร้อยก็ใช้ไม้พายคนให้ส่วนผสมต่าง ๆ เข้ากัน คนแค่พอให้แป้งเข้ากันพอประมาณ ไม่ควรคนให้แป้งเหนียวเกิน เพราะเวลาอบขนมออกมาจะทำให้คุกกี้แข็ง หลังจากคนเนื้อแป้งเข้ากันเรียบร้อยแล้ว ถ้าเป็นคุกกี้บัตเตอร์ฯ ก็ให้นำช็อกชิพ (ถ้าทำคุกกี้ช็อกโกแลตฯ ก็เปลี่ยนจากช็อกชิพเป็นไวท์ช็อกชิพแทน) และเม็ดมะม่วงหิมพานต์บด อย่างละ 50 กรัม ใส่ผสมลงไป จากนั้นก็นำไปอบ

การอบ เริ่มจากใช้ช้อนตักเนื้อแป้งหยอดใส่ลงไปบนถาดอะลูมิเนียมที่ทาเนยไว้เล็กน้อยเพื่อกันแป้งขนมติดถาด การหยอดให้หยอดเป็นก้อนเท่า ๆ กัน ขนาดตามความต้องการ ระยะห่างต่อก้อนอยู่ที่ประมาณ 1.5 นิ้ว เป็นการเผื่อระยะให้คุกกี้ขยายตัว ใช้ไฟอบประมาณ 180 องศาเซลเซียส อบประมาณ 12 ชั่วโมง ก็เป็นอันเรียบร้อย นำออกจากเตาอบ ทิ้งไว้ให้เย็น เตรียมบรรจุถุงส่งจำหน่าย

“คุกกี้ของเรานั้นจะต้องมีรสชาติที่ไม่หวานมาก และต้องมีความมันและหอมเนย” อนงค์นุชกล่าว ซึ่งจากสูตรข้างต้นจะทำคุกกี้ได้ประมาณ 1 กิโลกรัม ขายในราคากิโลกรัมละ 350 บาท ซึ่งนอกจากคุกกี้แล้วอนงค์นุชยังมีสินค้าอื่นอย่าง ซีเรียลอบน้ำผึ้ง และ เนยผสมลูกเกด เม็ดมะม่วงหิมพานต์ จำหน่ายด้วย

สำหรับผู้ที่สนใจคุกกี้ Three sis รวมถึงผลิตภัณฑ์อื่น ต้องการซื้อไปทาน เป็น ของฝาก หรือนำไปจำหน่ายต่อ ก็สามารถติดต่อได้ที่ โทร. 08-1254-4299, 08-6345-1762 โดยต้องสั่งออร์เดอร์ล่วงหน้าราว 1 สัปดาห์ ซึ่งจุดนี้ก็น่าจะการันตีได้ว่าการทำ “คุกกี้ โฮมเมด” ขาย...ยังคงน่าสนใจเสมอ !!.

http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?ColumnId=70260&NewsType=2&Template=1

แนะนำเว็บแฟรนไชส์

www.thaifranchisecenter.com Alexa traffic rank 65057
www.franchise108.com Alexa traffic rank 8656
www.rosded.net Alexa traffic rank 2940
www.coffeemade.com
www.massbuss.com
www.franchisefocus.co.th
www.franchisecb.com
www.sunstore2002.com
www.banana112.com

แนะนำอาชีพ "โคมไฟลดโลกร้อน"

สิ่งต่างๆเหล่านั้นเกิดขึ้นมาจากฝีมือของมนุษย์ ดังนั้นเราก็ควรหาแนวทางการแก้ไขก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป มองหาสิ่งที่เหลือใช้หรือสิ่งที่คิดว่าน่าจะมีประโยชน์นำกลับมาใช้ใหม่ ในรูปแบบการดีไซน์ผสมผสานกับไอเดียกิ๊ฟเก๋สร้างมูลค่าสินค้าได้เหมือนเช่นกับ ‘โคมไฟลดโลกร้อน..จากขวดน้ำขัดลม’

คุณสุภานี เล่าาว่าความโดเด่นของโคมไฟลดโลกร้อนอยู่ที่รูปแบบการดีไซน์ที่ไม่ซ้ำใคร สีสันสดใส เมื่อเปิดไฟแสงสว่างจะเปล่งประกายความสวยจากภายในสู่ภายนอก ขนาดฝรั่งยังงงเลย และที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ ความละเอียดที่ผู้สร้างสรรค์ผลงานนั้นควรจะให้ความสำคัญมากที่สุดไม่ว่าจะเป็นการตัดขวดหรือแม้แต่การเพ้นท์สีลงก็ตาม จะต้องละเอียดใจเย็น แล้วผลงานที่ได้ก็จะมีคุณค่าสร้างรายได้มหาศาลให้คุณในที่สุด

สินค้าที่ทำขึ้นมานั้นได้แก่ โคมไฟลดโลกร้อน...จากขวดน้ำอัดลม, โอ่งผ้าไหม, กล่องทิชชู และดอกไม้จากผ้าใยบัว ซึ่งราคาในการจำหน่ายนั้นเริ่มตั้งแต่ 89-2,000 บาท มีให้เลือกมากมายหลายรูปแบบ อาทิ ลายลีลาวดี ลายทานตะวัน ชบาซ้อน ลายนก ลายดอกไม้ ลายผีเสื้อ ฯลฯ

ส่วนลูกค้าของโคมไฟลดโลกร้อนนั้นเป็นใครมาจากไหน ไม่ต้องกลัวเลยว่าผลิตชิ้นงานแล้วจะขายไม่ได้ (แต่สินค้าของคุณต้องมีคุณภาพด้วยนะ ไม่ใช่ทำผ่านๆไปเท่านั้น) ราคาจะสูงไม่สูงขึ้นอยู่กับรูปแบบสินค้าที่ดีไซน์ออกมาด้วย เมื่อได้สินค้าออกมาไม่มีตลาดทางร้านในฝันเรายินดีรับซื้อสินค้าที่คุณผลิต ซึ่งนักเรียนที่เรียนจบตอนนี้กว่า 70 คน ยังผลิตส่งให้กับทางร้านในฝันอยู่ และบางคนก็สั่งเข้ามาเพื่อจะนำไปขายในจังหวัดต่างๆ ส่วนใหญ่ลูกค้าจะเป็นนักท่องเที่ยว บริษัททัวร์ โรงแรม ร้านอาหาร เป็นต้น

อุปกรณ์ในการทำ คือ 1.ขวดน้ำอัดลมขนาด 2 ลิตร 2. หัวแร้งแบบใบมีด (ทำเอง) 3.สีเพ้นท์แก้ว/กระจก 4. ปากกาเคมี 5. ลายหรือแม่พิมพ์ 6.ทินเนอร์

วิธีการทำ

1. นำขวดมาล้างให้สะอาด ด้านนอกเช็ดด้วยทินเนอร์ทิ้งไว้ให้แห้ง
2. ตัดก้นขวดออกตามรอยหยัก นำแม่แบบเข้าไปวางทาบในขวด แล้วใช้ปากาเคมีวาดด้านนอกขวดตามแบบ
3. ใช้หัวแร้งใบมีดที่มีความร้อนตัดตามรอยวาดเอาไว้จนครบ ล้างน้ำให้สะอาด เช็ดด้วยทินเนอร์
4. นำสีมาเพ้นท์ตามลวดลายตามต้องการ และตกแต่งประดับให้สวยงาม
5. นำหลอดไฟมาติดด้านใน ทดสอบว่าติดหรือไม่ เตรียมจำหน่าย

สนใจติดต่อได้ที่ คุณสุภานี หรืออาจารย์กบ 08-3919-8387 หรือไปชมด้วยตนเองที่ร้านในฝัน เกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี

ทีมา

http://www.innnews.co.th/nanajobs.php?nid=163680

แนะนำเว็บหางาน

www.jobbees.com
th.jobsdb.com/TH/TH/
www.ezyjob.com
www.nationejobs.com/
www.appjob.com
www.thaieasyjob.com/
www.thailabor.com
www.jobcute.com
www.jobthai.com/
www.jobth.com/
www.jobpub.com/
www.jobbkk.com/
www.buddyjob.com
www.jobthaiweb.com
www.jobbyyou.com
www.joburl.com

แนะนำอาชีพ “ไก่ย่างตะไคร้”

ผ่านเมืองร้อยเอ็ดเพชรอีสาน เมือง 101 เมืองพระพุทธศาสนา รักประชาธิปไตย อันมหาพระมากษัตริย์ทรงเป็นประมุข นำแนวพระราชดำริ “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” พออยู่พอกิน พอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกัน มีคุณธรรม นำหลักวิชาการ ภูมิปัญญาไทย ภูมิปัญญาท้องถิ่น จากทำมาหากิน สู่การ “ทำมาค้าขายไก่ย่างตะไคร้ร้อยเอ็ด”

คุณวิเชียร เสาร์สมภพ อายุ 52 ปี ผู้ดำเนินกิจกรรมเริ่มต้น จากครอบครัวขยายสู่ลูกหลาน 4 สาขา 1.ทุ่งนาหลวงทางออกอำเภอเมืองสรวง 2.เมืองทองทางออกอำเภอจตุรพักตรพิมาน 3.ปากทางบ้านสนามม้าทางออกอำเภอวาปีปทุม 4.เยื้องขนส่งจังหวัดร้อยเอ็ดทางออกจังหวัดมหาสารคาม เป็นร้านอาหารพื้นบ้านตำนานอีสาน ส้มตำ แคปหมู ส้มต่อน ปลาแห้ง แต่ที่โดดเด่นคือ “ไก่ย่างตะไคร้” โดยคุณวิเชียร เสาร์สมภพ บอกว่า เป็นสูตรเฉพาะตัว โดยใช้สมุนไพรจากพื้นบ้านอีสาน “ตะไคร้” มีความหอมเฉพาะตัว เป็นเอกลักษณ์ ใช้เป็นส่วนประกอบอาหาร ต้มยำ พร่าเนื้อ ยำหมู พร่ากุ้ง ต้มยำกุ้ง ขาดตะไคร้ในครัวไม่ได้ จากนั้น ตะไคร้ ยังเป็นสารประกอบในส่วนในการอบสมุนไพร บำรุงเลือด ลม อาการฟกช้ำ และเป็นสารป้องกันกำจัดศัตรูพืช ตามกระบวนการโรงเรียนเกษตรกรในพระราชดำริ

คุณวิเชียร เสาร์สมภพ เล่าว่า ความหอมจากตนเองทดสอบสดลอง นำเครื่องปรุงเพื่อการประกอบไก่ย่าง ทั้งกระเทียม พริกไทย ขิง ข่า รสชาติประมาณนั้น แต่ด้วยเป็นนักคิด นักทดสอบ นำตะไคร้ มาทดลอง พบว่ามีความหอม เนื้อนุ่ม อร่อย น้ำจิ้ม ที่เผ็ดข้าวเหนียวร้อนๆ ได้ส้มตำปูที่มีรสชาติเฉพาะของครอบครัวตนเอง บนเตาย่างถังผ่าครึ่ง ย่างไปเตรียมร้านไป 10.00 น.พร้อมรับประทาน ทั้ง 4 สาขา ล้วนเป็นร้านธรรมดา ริมถนนสายหลักมองเข้าไปข้างในสะอาด สะดวก ปลอดภัย อร่อยแบบอีสานจริงๆ ราคาแสนประหยัด ปิ้งละ 10 บาท 20 บาท 30 บาท 50 บาท จนถึง 100 บาท ส้มตำ ครกละ 20 บาท ข้าวเหนียว 10 บาท น้ำอัดลม คนผ่านทางแวะก่อนครับ หรือก่อนเข้าบ้าน ซื้อติดมือเข้าบ้านรับประทานร่วมกันแบบครอบครัว

คุณวิเชียร ฝากถึงคนผ่านทางครับว่า สูตรตะไคร้ไก่ย่างเป็นสูตรเฉพาะตัว ของครอบครัว จะสามารถเป็นสูตรที่บันทึกไว้ในความอร่อย นานาอาชีพจะสามารถนำมาประกอบเป็นอาชีพได้ ความมั่นของครอบครัว หากมีความสนใจแวะซื้อเป็นของฝาก หรือ เราคนไทยสนับสนุนคนไทยเงินมีอยู่ในเมืองไทย พอมี พอกิน พอประมาณ มีเหตุผล เมืองไทยใหญ่อุดม สนใจติดต่อ โทร.084-8755659 ไปร้อยเอ็ดคิดถึงไก่ย่างสูตรตะไคร้ ครับ

ทีมาhttp://www.innnews.co.th/nanajobs.php?nid=165737